เมื่อคืนไม่อยากดูทีวี เปิดเพลงเบาๆฟัง อยากอ่านหนังสือสบายๆ หยิบเรื่องสายธารแห่งปัญญามาอีกครั้ง อ่านจบไปแล้ว แต่อ่านอีกได้ม่เบื่อเลย พลิกๆไปอ่านคำนิทัศน์อุทาหรณ์ก่อน อันไหนถูกใจค่อยอ่านโดยละเอียด และแล้วก็มาถูกใจอยู่อันนึง หยิบเอามาแบ่งกันอ่านนะ
หลังฝนภูเขาเขียวสด
กลางดึกเสียงระฆังฟังชัด
ดูทิวทัศน์หลังฝน
ภูมิภาพจะรู้สึกสดใสกว่าเดิม
ฟังเสียงระฆังกลางดึก
จะก้องกังวานชัดเจนเป็นพิเศษ
นิทัศน์อุทาหรณ์เรื่อง ชะล้างฝุ่นละอองในดวงใจให้สะอาด
หลังจากฝนหยุดตกแล้ว บรรยากาศรอบๆตัวจะสดสะอาดสวยงามยิ่งขึ้น ยามดึกไร้สรรพสำเนียง เสียงระฆังดังแว่วมาแต่ไกลกังวานไพเราะเสนาะหู
ท่านทราบไหมว่าเป็นเพราะเหตุใด?
ที่แท้ก็เพราะในอากาศที่เราดำรงชีวิตอยู่ มีสิ่งสกปรกปนเปื้อนอยู่มากเหลือเกิน เช่น ฝุ่นละอองที่ปลิวมาจากพื้นดิน ควันดำที่พ่นออกมาจากรถ ควันไฟที่พวยพุ่งขึ้นมาจากปล่องโรงงาน เป็นต้น เหมือนหมอกบางๆ ที่กระจายปกคลุมอยู่ทั่วไป จนทำให้เราไม่สามารถจะเห็นโฉมหน้าจริงๆของภูมิภาพต่างๆได้ แต่เมื่อฝนตกลงมาสักห่าหนึ่งก็จะชะล้างอากาศให้สะอาดขึ้น เราจึงรู้สึกว่าสายตาของเราก็สดใจตามไปด้วย
ส่วนในเวลากลางวัน เสียงคน เสียงรถ เสียงเครื่องจักร ต่างก็แย่งกันมาเข้าหูเรา ในตอนนี้ แม้จะมีดนตรีอันแสนจะไพเราะบรรเลงให้ฟัง เราก็คงจะไม่ได้ยิน จะต้องรอจนเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างสงบเงียบลง ผู้คนทั้งหลายต่างพักผ่อน เครื่องจักรหยุดเดิน เราจึงจะสามารถได้ยินเสียงดนตรีนั้นได้อย่างซาบซึ้ง
ดวงใจเราก็เช่นกัน มักจะมีฝุ่นละอองเคลือบคลุมอยู่ชั้นหนึ่ง หรืออาจจะมีเสียงอึกทึกมารบกวน จนทำให้เราไม่สามารถจะเห็นเงาของสัจธรรมได้อย่างแท้จริง ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงฝีเท้าของมัน
สัจธรรมมาหาเรา ก็เพื่อที่จะชักนำเราไปสู่แสงสว่าง แต่เมื่อเราไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ยิน ก็จะทำให้เราหลงทิศผิดทาง พาตัวเองเข้าไปหาความมืดมน
ที่เป็นดังนี้ มิใช่เพราะเรารักชอบความมืดมน แต่เป็นเพราะเรามิได้ชะล้างขจัดฝุ่นละอองและเสียงรบกวนที่อยู่ในใจเราให้สะอาดต่างหาก!
"ภาษิตรากผัก" ได้กล่าวไว้ว่า
"จิตใจสะอาดบริสุทธิ์ จึงจะสามารถอ่านเรียนหนังสือโบราณของนักปราชญ์ได้ ลองคิดดูว่า คนที่มีจิตใจไม่สะอาดบริสุทธิ์ แยกถูกผิดดีชั่วไม่ออกจะสามารถศึกษาหาความรู้ ก่อร่างสร้างตัว สร้างคุณูปการให้แก่สังคมได้อย่างไร?"
จบ ...
นำภาพที่ถ่ายไว้ตอนไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนสองปีที่แล้วมาประกอบ น่าจะเข้ากันได้ดี