วันเสาร์ที่ 28 ที่ผ่านมา ที่บอกว่ามีนัดกับแม่เพื่อไปฟังธรรมของพระอาจารย์ที่วัดโลกโมฬี ไม่น่าเชื่อเลยนะ เราไปถึงวัดกันแล้ว นั่งรอพระอาจารย์แล้ว แต่.....มีโทรศัพท์จากที่บ้านมาว่าเกิดปัญหา ดูท่าทีแล้วว่าไม่น่าจะจัดการปัญหากันได้ ไม่น่าเชื่อนะ อีกแค่ 10 นาทีจะถึงเวลาตามกำหนดการ ไม่น่าเชื่อว่าพวกเราจะต้องกลับบ้าน โถ อีกแค่ไม่กี่อึดใจเท่านั้นเอง กลับบ้านกับแม่ ที่รักอยู่ฟังเพราะเธอมารับกรรมฐานตั้งแต่วันที่ 27 แล้ว นอนอยู่ที่วัด ที่รักเล่าให้ฟังว่า พระอาจารย์แสดงธรรมได้สุดยอดมาก ไม่เป็นไรหรอก ไว้สักวันจะต้องมีโอกาสพาแม่ไปฟังธรรมอีกให้ได้
มีแผนว่าจะไปแสวงบุญที่อินเดีย ไปกับกลุ่มทัวร์ที่เค้าจัดกัน โดยมีท่านสามเณรีท่านหนึ่งเดินทางล่วงหน้าไปตั้งแต่เมื่อวาน คณะเราจะไปสมทบโน่นแหละ วันที่ 30 มกรา อยู่ 7 วัน บอกแม่ แม่บอกตามใจสิลูก บอกคุณตา คุณตาว่า ห๊า อะไรนะ ไปอินเดีย ไปทำไม ไปส่วนไหน ห๊า ไปทางเหนือเหรอ เธอรู้มั๊ยว่าเขตนั้นหน่ะเป็นเขตสงครามนะ .... ไม่ใช่มั้งคุณตา ใครๆเค้าก็ไปกันน๊า ไม่น่าจะมีปัญหา ยังไงเราก็ว่าจะไป เดี๋ยวต้องส่งเอกสารไปให้น้องคนที่เค้าจัดทัวร์อีกที ว่าแต่ว่าจะทำยังไง๊ ให้ไปถึงสุวรรณภูมิตอนตี 4 ของวันที่ 30 เอาไว้ค่อยหาวิธีก็แล้วกัน ไปงานนี้ไม่ได้พักโรงแรมหรอกนะ จะได้นอนวัดกัน แหะ ไม่ลองไม่รู้ โลกนี้ยังกว้างใหญ่นัก พาสปอร์ตเล่มใหม่ที่เพิ่งทำนี้ยังไม่ได้ประทับตราเลย อินเดียและเนปาลนี่แหละจะเป็นตราอันแรกของเล่มนี้
งานนี้ที่รักไม่ไปด้วย ก็ดีเหมือนกัน เธอจะได้อยู่ดูแลออฟฟิศแทนเรา เธอมีแผนสำหรับปีหน้าเรียบร้อยแล้ว เข้าพรรษาปีหน้าเธออาจจะไปบวชชี อืมม เธอบอกว่าบางทีก็กลัวนะ กลัวจะทำไม่ได้ งานนี้ไม่ลองก็ไม่รู้สินะ เกิดเป็นคนทั้งที คิดให้ดี แล้วก็ลองเถอะ เราเอง เมื่อโอกาสมาถึง วันนึงเราอาจจะตัดสินใจอย่างเธอก็ได้ แต่ ณ ตอนนี้ ขอนอนให้อิ่มก่อน แหะ ก็นักบวชท่านเน้นว่า ต้องกินน้อย นอนน้อย พูดน้อย ปฏิบัติให้มาก เรายังรักการนอนอยู่เลย